6 อันดับ สว่านไร้สาย ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ? รวมวิธีเลือกสว่านไร้สายให้เหมาะกับการใช้งานที่สุด

สว่านไร้สาย ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี

สว่านไร้สาย หรือสว่านไฟฟ้า ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือช่างที่สำคัญในงานก่อสร้างและเป็นเครื่องมือช่างสามัญประจำบ้านของทุกคนด้วย เพราะด้วยความสามารถที่ใช้ในการเจาะรูบนพื้นวัสดุได้หลากหลายประเภท เช่น สร้างบ้าน สร้างอาคาร เจาะปูน เจาะอิฐ เจาะเหล็ก เจาะกำแพง (ไว้แขวนสมาร์ททีวี) และนำไปใช้ในการติดตั้ง, ประกอบเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ เช่น โต๊ะทำงาน เก้าอี้สำนักงาน หรือการขันน็อตจักรยานก็ทำได้เช่นกัน

แต่ในการเลือกซื้อสว่านไร้สายนั้นก็มีด้วยกันหลายรุ่น หลายประเภท ซึ่งมีขนาด น้ำหนัก กำลังไฟฟ้า(โวลต์)ความสามารถในการใช้งาน รวมถึงราคาที่แตกต่างกันออกไปตามความต้องการของเรา

ซึ่งในบทความนี้ Kodang Tools จะพาทุกคนไปทำความรู้จักสว่าน หนึ่งในเครื่องมือช่างไฟฟ้า สว่าน คืออะไร? มีกี่แบบ? วิธีการเก็บรักษา รวมถึงแนะนำแบรนด์สว่านไร้สายชั้นนำที่คุณควรเป็นเจ้าของ จะมีอะไรบ้าง ไปติดตามต่อกันได้เลย

สว่านมีกี่แบบ ?

สว่าน สามารถแบ่งตามการใช้งานได้หลากหลาย ตั้งแต่สว่านแบบพกพาน้ำหนักเบา ไปจนถึงสว่านสำหรับงานก่อสร้างขนาดใหญ่ ตรงนี้เลยขอยกตัวอย่างสว่านที่เราคุ้นเคยหรือเคยเห็นตามร้านเครื่องมือช่าง ซึ่งจะประเภทของสว่านได้ดังนี้

1. สว่านไขควงไฟฟ้า

สว่านไขควงไฟฟ้า

สว่านไขควงไฟฟ้า คือสว่านที่มีกำลังไฟไม่สูงมากเมื่อเทียบกับสว่านประเภทอื่น ๆ (ประมาณ 3.6 วัตต์) มีให้เลือกทั้งแบบไร้สาย (ใช้กำลังไฟจากแบตเตอรี่) หรือใช้ถ่านแบบต่าง ๆ สว่านไขควงไฟฟ้ามีหน้าที่ในการไขสกรู มีระบบควบคุมแรงบิดและรอบหมุนได้ดี สามารถหมุนแบบกลับหลังได้ด้วย จึงทำให้เหมาะสำหรับการไขและคลายสกรู

สว่านไขควงไฟฟ้ามีทั้งแบบไร้สาย ใช้แบตเตอรี่ และใช้ถ่าน หน้าที่หลักคือการไขสกรู จึงมีระบบควบคุมแรงบิดและรอบหมุน สามารถกลับทางหมุนได้ เพื่อให้เหมาะกับทั้งการไขสกรู และการคลายสกรู

2. สว่านไฟฟ้า

สว่านไฟฟ้า

สว่านไฟฟ้า คือสว่านที่ทำงานแบบระบบเดียว มีกำลังวัตต์ที่ไม่สูงมาก (ประมาณ 300-550 วัตต์ แล้วแต่แบรนด์) มีน้ำหนักเบา เป็นสว่านที่เหมาะสำหรับงานช่างทั่วไป เช่นงานที่ต้องเจาะไม้ (สว่านไฟฟ้าเหมาะกับงานไม้ที่สุด) เจาะเหล็ก เจาะพลาสติก ขันน็อต ขันสกรูทั่วไป แต่อาจไม่เหมาะสำหรับงานก่อสร้างที่ต้องเจาะปูน เจาะอิฐ

ข้อดีของสว่านไฟฟ้าคือเป็นสว่านที่ใช้ไฟฟ้าในการทำงาน จึงมีสายไฟ ทำให้สามารถใช้งานอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวันตราบใดที่มีไฟฟ้า แต่ก็มีข้อเสียในเรื่องความคล่องตัว เพราะต้องเสียบปลั๊กไฟไว้ตลอดเวลา ซึ่งอาจมีความเสี่ยงที่มอเตอร์จะไหม้ได้ถ้าใช้งานกันเป็นระยะเวลานานติดต่อกันหลายวันแบบไม่ได้พัก

3. สว่านกระแทก

สว่านกระแทก

สว่านกระแทก คือสว่านที่มีลักษณะคล้ายคลึงสว่านไฟฟ้า แต่จะมีความแตกต่างตรงที่สว่านกระแทกจะมีกำลังวัตต์สูงกว่า (ประมาณ 550-720 วัตต์) สว่านกระแทกเป็นสว่านที่ทำงานได้ 2 ระบบได้แก่ระบบเจาะและระบบกระแทก ที่จะทำหน้าที่เหมือนค้อนในการกระแทกเข้าไปยังวัสดุที่มีความแข็งสูงได้

โดยสว่านกระแทกจะเหมาะในการเป็นเครื่องมือสำหรับช่างทั่วไป รวมถึงเหล่าพ่อบ้านทั้งหลาย เพราะมีความสามารถในการเจาะปูน เจาะอิฐ เจาะผนังบ้าน มากกว่าสว่านรูปแบบอื่น

4. สว่านโรตารี่

สว่านโรตารี่

สว่านโรตารี่ คือสว่านออกแบบมาเพื่อการเจาะพื้นผิวคอนกรีตโดยเฉพาะ มีกำลังตั้งแต่ 650 วัตต์ ขึ้นไปเหมาะกับช่างก่อสร้างหรือช่างตกแต่งภายในที่ต้องการมีการเจาะคอนกรีต สว่านโรตารี่มีระบบการทำงานให้เลือก 2 แบบ ได้แก่

  • แบบ 2 ระบบ จะมีระบบเจาะ ระบบกระแทก (คล้ายตัวสว่านกระแทก)
  • แบบ 3 ระบบ จะมีระบบเจาะ ระบบกระแทก และระบบสกัด สำหรับงานปูนโดยเฉพาะ ซึ่งถ้าเลือกสว่านโรตารี่แบบ 3 ระบบก็จะมีดอกสว่านสกัดแถมเพิ่มเข้ามาให้ด้วย

5. สว่านไร้สาย

สว่านไร้สาย

สว่านไร้สาย คือสว่านที่ไม่ใช้กำลังไฟฟ้าในการทำงาน แต่จะใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ (นิยมเรียกอีกชื่อว่าสว่านแบตเตอรี่) ทำให้กำลังของสว่านไร้สายจะมีหน่วยเป็นโวลต์เสมอ เหมาะสำหรับงานขนาดเล็กเช่น เจาะไม้ เจาะเหล็ก ขันน็อต ได้เปรียบเรื่องขนาดและการพกพา สามารถใช้ในการทำงานในพื้นที่ที่ไม่มีไฟฟ้าเข้าถึงได้ แต่อาจมีข้อเสียตรงที่กำลังไฟฟ้าน้อยกว่าสว่านแบบอื่น ๆ เลยไม่สามารถใช้งานหนัก ๆ ได้

สว่านไร้สายยี่ห้อไหนดี เลือกอย่างไรให้เหมาะกับการใช้งาน?

สว่านไร้สายนั้นมีด้วยกันหลากหลายแบบ จากแบรนด์ชั้นนำของโลกมากมาย ซึ่งแต่ละตัวนั้นก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป Kodang Tools สรุปไว้ให้แล้วดังนี้

1. สว่านไร้สาย Makita

สว่านไร้สาย-makita

สว่านไร้สาย Makita เป็นสว่านแบรนด์ญี่ปุ่น แบบอเนกประสงค์ใช้งานได้หลากหลาย ตัวเครื่องมีขนาดเล็ก ไม่ใหญ่เกินไป คล่องตัว เหมาะใช้งานในพื้นที่จำกัดได้ มีน้ำหนักเบา มีช่องระบายความร้อนในตัว ใช้งานปลอดภัย เป็นสว่านที่ควรมีติดบ้านไว้เลย เหมาะสำหรับงานเจาะทั่วไปเช่นงานเหล็ก/ไม้ หรืองาน DIY เช่น งานประกอบ/งานซ่อมแซมเฟอร์นิเจอร์ ก็ทำได้ไม่แพ้กัน

สว่านไร้สาย Makita จะมีราคาประมาณ 1,190 – 4,000 บาท (แล้วแต่สเป็คการใช้งาน)

2. สว่านไร้สาย Bosch

สว่านไร้สาย-Bosch

สว่านไร้สาย Bosch เป็นสว่านไร้สายแบรนด์มาตรฐานยุโรป กำเนิดที่ประเทศเยอรมัน เป็นอีกหนึ่งแบรนด์เครื่องมือช่างชั้นนำของโลก โดยสว่านไร้สายของ Bosch นั้นส่วนใหญ่จะมีแรงดันไฟฟ้าอยู่ที่ 12 โวลต์ทำให้ ใช้งานได้อย่างมั่นใจ มีน้ำหนักเบา กะทะรัด พกพาสะดวก ดีไซน์สวยงาม เหมาะสำหรับงานช่างทั่วไปหรืองานช่างสำหรับพ่อบ้าน เช่นงานซ่อมแซม, งานเฟอร์นิเจอร์ หรือประกอบอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่นตู้เสื้อผ้าไม้ เก้าอี้สำนักงาน และอื่น ๆ มีกล่องเก็บรักษาให้ด้วย

สว่านไร้สาย Bosch จะมีราคาประมาณ 1,390 – 5,000 บาท (แล้วแต่สเป็คการใช้งาน)

3. สว่านไร้สาย Dewalt

สว่านไร้สาย-Dewalt

สว่านไร้สาย Dewalt เป็นสว่านของแบรนด์เครื่องมือช่างสัญชาติอเมริกันอย่าง Dewalt ที่ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่จะ Made in USA เป็นสว่านตัวช่วยในเจาะชิ้นงานของคุณได้แบบรวดเร็ว มีข้อดีตรงการออกแบบที่คำนึงถึงผู้ใช้งานเป็นหลัก ด้วยการด้านจับแบบหุ้มยางกันหลุดมือ สามารถใช้เจาะได้กับชิ้นงานหลากหลายทั้งโลหะ ไม้ หรือพลาสติก ใช้งานด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่ พกพาสะดวก คล่องตัวทุกการใช้งาน ดีไซน์ตัวเครื่องจะเป็นสีเอกลักษณ์ของแบรนด์ Dewalt อย่างเหลือง-ดำ เป็นหลัก

สว่านไร้สาย Dewalt จะมีราคาตั้งแต่ 1,190 – 3,900 บาท (แล้วแต่สเป็คการใช้งาน)

4. สว่านไฟฟ้า Maktec

สว่านไฟฟ้า-Maktec

สว่านไฟฟ้า Maktec เป็นสว่านไฟฟ้าแบรนด์ลูกของ Makita จัดเป็นสว่านไฟฟ้าที่มีขนาดเล็ก ใช้งานสะดวกทำให้เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่แคบหรือจำกัด เหมาะสำหรับงานที่ต้องเจาะไม้ เหล็ก โลหะ การใช้งานของสว่านไฟฟ้าแบรนด์นี้จะถูกออกแบบให้มีความทันสมัยทุกรุ่น เช่นระบบ 2In1 ใช้เป็นไขควงไฟฟ้าขันเกลียวปล่อยได้, ควบคุมความเร็วรอบด้วยการกดสวิตช์หนัก-เบา หรือถ้าใครไม่อยากกดค้างนาน ๆ มีปุ่มล้อคการความเร็วให้ด้วย เรียกได้ว่าตอบโจทย์ทุกการใช้งานจริง ๆ

สว่านไฟฟ้า Maktec จะมีราคาตั้งแต่ 900 – 2,000 บาท (แล้วแต่สเป็คการใช้งาน)

5. สว่านไร้สาย Pumpkin

สว่านไร้สาย-Pumpkin

สว่านไร้สาย Pumpkin เป็นสว่านไร้สายสัญชาติไทย โดดเด่นด้วยมอเตอร์แบบใช้แปรงถ่านประสิทธิภาพสูง ปรับระดับแรงบิดได้หลายระดับ มีทั้งระบบเจาะและระบบกระแทกทำให้สามารถนำไปใช้งานกับงานสเกลใหญ่ได้สบาย มีตัวเฟืองคุณภาพสูง หมดห่วงเรื่องการใช้งาน แถมมาพร้อมหน้าจอ LED แสดงสถานะแบตเตอรี่ ทำให้ทำงานได้ไม่มีสะดุดหมดปัญหาแบตหมดกลางทาง เหมาะกับงานซ่อมแซมหรืองานติดตั้งอุปกรณ์ทั่วไป พร้อมดีไซน์ทันสมัย

สว่านไฟฟ้า Pumpkin จะมีราคาตั้งแต่ 900 – 1,990 บาท (แล้วแต่สเป็คการใช้งาน)

6. สว่านไร้สาย Stanley

สว่านไร้สาย-Stanley

สว่านไร้สาย Stanley เป็นสว่านไร้สายจากแบรนด์สัญชาติอเมริกาและยังเป็นบริษัทแม่ของ Dewalt สว่านไร้สาย Stanley นั้นจะโดดเด่นในเรื่องขนาดกะทัดรัด ทำให้สามารถใช้งานได้ง่ายและคล่องตัว มาพร้อมด้ามจับหุ้มยางเหมือน Dewalt แต่จะพิเศษกว่าตรงที่มีระบบไฟ LED ส่องสว่างในตัว ช่วยเรื่องการทำงานในพื้นที่แสงน้อยได้เป็นอย่างดี มาพร้อมระบบแบตเตอรี่สุดอึด อันเป็นจุดขายของแบรนด์ Stanley ทำให้คุณใช้งานได้อย่างต่อเนื่องกว่า เหมาะกับงานซ่อมแซมหรืองานติดตั้งอุปกรณ์ทั่วไป

สว่านไฟฟ้า Stanley จะมีราคาตั้งแต่ 790 – 3,500 บาท (แล้วแต่สเป็คการใช้งาน)

สว่านไฟไร้สาย คืออะไร ?

สว่านไฟไร้สาย คือ สว่านที่ไม่ใช้พลังงานจากไฟฟ้าในการทำงาน แต่จะพลังงานจากแบตเตอรี่แทน ทำให้ตัวเครื่องไม่มีสายไฟมาให้ สว่านไฟไร้สายถือว่าเป็นเครื่องมือช่างที่มีประโยชน์มาก เพราะใช้งานได้หลากหลายรูปแบบเช่น เป็นไขควงในการสกรูน็อต เจาะวัสดุที่พื้นผิวไม่แข็งมากนักเช่น ไม้ พลาสติก โลหะ หรืองานประกอบติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น โต๊ะทำงาน เก้าอี้สำนักงาน ติดตั้งสมาร์ททีวีกับผนัง หรือขันน็อตจักรยานก็ได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งปลั๊กไฟในการใช้งานเลย

สว่านไฟไร้สาย อาจมีข้อเสียในเรื่องการใช้งานเนื่องจากไม่ได้ใช้พลังงานไฟฟ้าทำให้ไม่สามารถใช้งานเจาะพื้นผิวที่แข็งมาก ๆ อย่างปูนหรืออิฐได้ (ควรใช้สว่านไฟฟ้ามากกว่า) แต่ในปัจจุบันสว่านไฟไร้สายก็มีรูปแบบของสว่านให้เลือกเหมือนสว่านไฟฟ้าแล้ว เช่น สว่านกระแทกไร้สาย สว่านโรตารี่ไร้สาย แถมมีราคาและน้ำหนักที่น้อยกว่าสว่านไฟฟ้าด้วย ช่วยตอบโจทย์การทำงานของช่างในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

วิธีเลือกสว่านไร้สาย ?

ในการเลือกซื้อสว่านไร้สายนั้น มีปัจจัยสำคัญที่คุณควรต้องพิจารณาก่อนการซื้อดังนี้

ควรเลือกตามประเภทการใช้งานที่เหมาะสม

ในกรณีที่คุณต้องการซื้อสว่านไร้สายเพื่อการทำงานชิ้นเล็ก ๆ เช่นติดตั้งสมาร์ททีวี ประกอบโต๊ะทำงาน เก้าอี้สำนักงาน หรือขันน็อตจักรยาน ก็ควรเลือกซื้อสว่านไร้สายที่มีน้ำหนักเบา สะดวกต่อการใช้ และมีกำลังโวลต์ไม่สูงมาก เพราะมีราคาที่ถูกกว่าสว่านรูปแบบอื่น ๆ และช่วยทำงานได้อย่างอเนกประสงค์

พิจารณาจากกำลังไฟฟ้า

สว่านไร้สายส่วนใหญ่จะบอกหน่วยกำลังไฟฟ้าเป็นโวลต์ โดยสว่านไฟฟ้าตัวไหนที่มีกำลังโวลต์ต่ำ ประมาณ 12-18 โวลต์ก็จะเหมาะสำหรับงานทั่วไปภายในบ้าน แต่ถ้าเป็นสว่านไร้สายที่มีกำลังโวลต์สูงขึ้นมาหน่อย เช่นสว่านกระแทกไร้สาย สว่านโรตารี่ไร้สาย ก็จะสามารถใช้งานหนักขึ้นมาหน่อยอย่างการเจาะคอนกรีต เป็นต้น

แบตเตอรี่ก็สำคัญไม่แพ้กัน

ในการเลือกซื้อสว่านไร้สายนั้นอีกสิ่งสำคัญที่คุณต้องพิจารณาก็คือเรื่องของแบตเตอรี่ ควรถามพนักงานขายก่อนเสมอว่า มีแถมแบตเตอรี่มาให้กี่ก้อน มีแบตสำรองขายให้ด้วยไหม ความจุของแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานแค่ไหน เพราะถ้าเกิดใช้งานไปแล้วแบตหมดกลางคัน หรือแบตเตอรี่เสียก็อาจทำให้การทำงานของคุณต้องสะดุด หยุดชะงักลงได้

การดูแลรักษาสว่านไร้สาย ทำอย่างไร ?

  • ควรทำความสะอาดทุกครั้งหลังจากใช้งานเสร็จ โดยอาจใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดแล้วเช็ดซ้ำด้วยผ้าแห้ง เพื่อป้องกันการเสียหายของสว่านไร้สาย
  • ตรวจเช็คสภาพภายนอกของสว่านไร้สายว่ามีความเสียหายอะไรหรือไม่ ทั้งก่อนและหลังใช้
  • หลังใช้งานเสร็จทุกครั้งควรเก็บสว่านไร้สาย เข้าไปในกล่องเก็บ ไม่ควรเก็บไว้ในที่โล่งแจ้งและควรเก็บไว้ให้ห่างมือเด็ก ๆ
  • หลังใช้งานเสร็จแนะนำว่าควรถอดส่วนที่ประกอบชิ้นต่าง ๆ ออกเสมอเช่นดอกสว่าน แบตเตอรี่ เพื่อป้องกันอันตรายและสนิม
การดูแลรักษาสว่านไร้สาย

สรุป

และนี่ก็คือสาระความรู้เกี่ยวกับสว่านไร้สายที่ Kodang Tools ได้เอามาฝากทุก ๆ คนในบทความนี้ หวังว่าทุกคนคงจะนำความรู้นี้ไปใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อสว่านไร้สายที่ดีที่สุดและเหมาะสมกับงานของเรามากที่สุด

สำหรับใครที่ต้องการเลือกซื้อสว่านไร้สาย กับร้านขายเครื่องมือช่างที่ได้คุณภาพ มีสินค้านำเข้าจากหลายแบรนด์ชั้นนำ มีบริการจัดส่งที่รวดเร็วและพนักงานที่พร้อมดูแลคุณตลอดอย่างร้าน Kodang Tools อย่ารอช้า!!

คุณสามารถเข้ามาเลือกซื้อสว่านไร้สายกับร้าน Kodang Tools ตอนนี้ได้เลย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *